การทำ Digital Marketing นั้นนักการตลาดหลาย ๆ คนนิยมใช้ตัวแทนในการที่จะมาช่วยคิดและช่วยดูแลการตลาดตรงนี้ ซึ่งก็คือการจ้างให้ Digital Agency เข้ามาดูแลนั้นเอง การจ้าง Digital Agency หรือ Agency ที่มาทำงานนั้นเป็นการลงทุนอย่างหนึ่งของบริษัทที่หวังผลตอบแทนในการกลับที่คุ้มค่า ยิ่งในยุคนี้ต่างก็หวังที่จะให้ผล ROI ที่ดีกลับมา ทำให้การหา Digital Agency ที่ใช่นั้นเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างมาก เพราะได้บริษัทที่ผิดมา นอกจากจะทำให้งานนั้นไม่ได้ผล ยังต้องเสียเวลา เสียเงิน และสำคัญคือเสียโอกาสอีกด้วย
ปัญหาสำคัญที่ SoDA (Society of Digital Agencies) พบที่ทำให้การทำงานกับ Agency ล้มเหลวจนบริษัทต่าง ๆ หันไปทำ In House Agency นั้นคือ 1, Agency นั้นทำงานช้า 2. Agency ยังยึดติกับการทำโฆษณา 3. Agency ชอบทำงานแคมเปญมากกว่าดูแลยาว ๆ 4. บริษัทไม่อยากจ้างข้างนอกทำงาน 5. บริษัทอยากเก็บข้อมูลไว้ที่บริษัท 6. Agency ไม่ได้มีคนเก่งทำงาน ทั้งหมดนี้คือเหตุผลที่บริษัทนั้นไม่อยากจะมี Agency ไว้ทำงานเพราะเจอข้อแย่ ๆ เหล่านี้ แล้วถ้าจะหาเอเจนซี่ดี ๆ ต้องดูจากอะไรกัน วันนี้ผมจึงรวบรวม 6 ข้อในการเลือก Digital Agency ไว้ใช้งานกันมาไว้เป็นข้อมูล
1. ต้องทำงานคล่องแคล่ว ว่องไว
Digital Agency ที่ดีไม่ใช่แค่ต้องทำงานรวดเร็ว แต่ต้องสามารถเปลี่ยนแปลง ปรับเปลี่ยนไปกับกระแสที่เปลี่ยนไปในตลาดของลูกค้าได้ หรือแผนการตลาดของลูกค้าได้ ยิ่งในยุคนี้ที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วทำให้ธุรกิจมีการเปลี่ยนแปลงในกลยุทธ์และในแง่การตลาดอยู่เสมอ Agency ที่ดีจะไม่เพียงรู้ว่าต้องปรับเปลี่ยนอย่างไร แต่ยังมีวัฒนธรรมองค์กรและกระบวนการที่จะสามารถปรับเปลี่ยนได้อย่างรวดเร็วตามความต้องการของลูกค้าได้
อีกข้อในความรวดเร็ว Agency ต้องมีอยู่นำหน้าเทรนด์ หรือสามารถล่วงรู้ได้ว่าอะไรกำลังจะมา อะไรจะกลายเป็นกระแสต่อไปทั้งในวงการ Digital Marketing เองหรือในธุรกิจของลูกค้าเองก็ด้วย Agency ที่ดีจะคอยแจ้งข่าวและทดสอบสมมติฐานเพื่อทดสอบกระแสใหม่ว่ามีความเป็นไปได้แค่ไหน เพื่อที่จะสามารถแนะนำว่าควรจะรับมือหรือใช้คลื่นกระแสที่จะมาส่งผลอย่างยิ่งใหญ่ต่อการตลาดได้
2. ต้องรู้มากกว่าการทำโฆษณา
หลาย ๆ ครั้ง Agency หลาย ๆ ที่มักประกาศตัวเองว่ารู้และสามารถทำ Digital Marketing แต่ปรากฏว่าไม่ได้ทำจริงแต่มีแผนกทำหรือใช้ชื่อเพื่อไม่ให้ตกกระแสแล้วทำเป็นแต่ Outbound Marketing หรือยังติดในกรอบเดิม ๆ คือการทำ Advertising ที่ยัดเยียดออกไป
Digital Agency ที่ดีไม่ใช่เพียงต้องรู้ศาสตร์ของการทำโฆษณา แต่ศาสตร์อื่น ๆ โดยเฉพาะ Inbound Marketing นั้นก็เป็นเรื่องสำคัญอย่างมากว่าจะสามารถสร้างคุณค่าของแบรนด์ให้กับกลุ่มเป้าหมายได้อย่างไร และเชิญชวนให้กลุ่มเป้าหมายนี้กลายมาเป็นลูกค้าและแฟนในที่สุดได้อย่างไรด้วย
3. ชอบการทำอะไรระยะยาวมากกว่า Campaign
Digital Agency ที่ดีต้องมีความชอบและมองอะไรในระยะยาว แน่นอนการทำ Campaign นั้นสามารถสร้างกระแสและสร้างคุณค่าให้กับแผนการตลาดได้ แต่อย่าลืมว่าจบ Campaign นั้นก็ยังต้องสื่อสารต่อไปกับผู้บริโภคไม่งั้นกระแสจะหายไปหมด และไม่ใช่ทุก Campaign นั้นจะประสบความสำเร็จได้ ดังนั้นการมองอะไรในระยะยยาวหรือคิดถึงการกระทำต่อเนื่องนั้นจึงสำคัญมาก
Agency ที่ดีจะไม่มองอะไรระยะสั้น แต่จะมองผลในระยะยาวและหาเส้นทางที่จะเดินให้ถึงเป้าหมายในระยะยาวของลูกค้าเอาไว้ สร้างความสัมพันธ์กับกลุ่มเป้าหมายเอาไว้ตลอดเพื่อสร้างกลุ่มแฟน ๆ หรือคนติดตามขึ้นมา หรือทำให้เป็น top of mind ในกลุ่มเป้าหมายให้ได้ ซึ่งเอเจนซี่แบบนี้จะช่วยคุณวางแผนในระยะยาว ไม่ใช่มาเสนอแต่งานแคมเปญไป
4. Agency ที่ดีต้องสร้างทีมของผู้เชี่ยวชาญเอาไว้
ศาสตร์ของการทำ Digital Marketing นั้นมีความหลาหลายมาก และเพื่อที่จะทำให้คุณสามารถอยู่ในสายตาของลูกค้าได้หรือทำให้ลูกค้าเชื่อใจคือการที่ต้องมีผู้เชี่ยวชาญในทีมต่าง ๆ ขึ้นมา หรือสามารถปั้นคนเก่งจากใน Agency ขึ้นมาได้ Digital Agency จะผสมผสานความรู้ความเชี่ยวชาญจากหลาย ๆ ด้านจนออกมาเป็นแผนกลยุทธ์และการทำงานที่มีความกลมอย่างมากในการที่จะลงมือในทางการตลาดได้ขึ้นมา Digital Agency จะไม่ได้ทำงานตามสั่งของลูกค้าเลยทันที แต่จะคิดและแนะนำกลับไป รวมทั้งต่อยอดต่าง ๆ ขึ้นมาได้จากผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้ที่อยู่ในวงการ Digital มา
ทั้งนี้ นี่คือ 4 ข้อในการหา Digital Agency ที่จะมาทำงานกับคุณ หรือสามารถสร้างแผนงานทาง Digital Marketing ที่ใช่ออกมาได้ ลองดูว่า Agency ที่ทำงานกับคุณอยู่นั้นสามารถทำงาน 4 ข้อนี้ได้หรือไม่ ถ้าไม่แปลว่าคุณเลือกผิดคน แต่ถ้าใช่ยินดีด้วยคุณเจอ Digital Agency ที่ดีแล้ว