สำหรับคนที่ต้องการมีรถยนต์ส่วนตัวหรือต้องการที่จะซื้อรถคันแรกไม่ใช่ว่าซื้อมาแค่เพียงแค่ว่าอยากได้หรือต้องการที่จะมาอวดคนอื่นอย่างเดียวเพราะเมื่อเรามีรถแล้วสิ่งที่ต้องมากับการซื้อรถคือการดูแลรักษารถยนต์ให้ดีเหมือนกับว่าดูแลสุขภาพร่างกายของเราเอง ทีนี้มาดูกันว่าหลักๆแล้วคนที่มีรถยนต์ต้องเตรียมตัวในการดูแลรักษาอย่างไร
รถยนต์ต้องเติมน้ำมัน แน่นอนว่าคนที่ซื้อรถยนต์มาแล้วยังต้องคำนวณในส่วนของค่าน้ำมันด้วย ในกรณีที่ท่านขับรถไปทำงานหรือต้องเดินทางไป-กลับในระยะทางดังกล่าวทุกวัน ต้องคำนวณดูว่าค่าใช้จ่ายในส่วนนี้คุ้มค่าหรือไม่ ถ้าในกรณีที่สถานที่ทำงานของเรามีรถไฟฟ้าผ่านแนะนำว่าให้นั่งรถไฟฟ้าหรือรถไฟใต้ดินจะประหยัดกว่าการขับรถไป เพราะการขับรถนอกจากจะใช้น้ำมันแล้วการจราจรในตอนเช้ายังติดขัดทำให้เราเสียเวลามากยิ่งขึ้นอีกด้วย
รถยนต์ต้องมีประกัน บางคนที่สงสัยว่ามีพรบ.แล้วยังต้องทำประกันอีกหรือไม่ คำตอบคือ ต้องทำเพราะพรบ.เป็นกรมธรรม์ภาคบังคับกฎหมายสำหรับบุคคลที่เป็นผู้ครอบครองรถยนต์ต้องทำเพื่อในเวลาที่รถยนต์ของท่านต้องต่อภาษีหรือกรณีที่เกิดขับไปชนคนเดินถนนเข้า พรบ.ก็จะจ่ายให้ท่านในส่วนนึง แต่ประกันรถยนต์ชั้น 1,2,3 จะคุ้มครองในส่วนของค่าเสียหายรถยนต์และผู้ขับขี่ซึ่งจะทำหรือไม่ทำก็ได้ แต่เพื่อความปลอดภัยแล้วท่านควรต่อประกันรถยนต์จะเป็นการดีที่สุดเพราะเมื่อเกิดเหตุชนกันขึ้นค่าเสียหายในส่วนที่ประเมินออกมาจะค่อนข้างสูงถ้าเราไม่ได้ทำประกันรถยนต์ไว้จะทำให้ปวดหัวภายหลังได้ และสิ่งที่เราขาดไม่ได้เลยคืออย่าลืมเรื่องต่อประกันรถยนต์เพราะเรามักจะคิดเสมอในตอนที่ประกันขาดว่าเดี๋ยวค่อยไปต่อก็ได้ขาดแค่อาทิตย์สองอาทิตย์ไม่เป็นไร โดยส่วนมากแล้วอุบัติเหตุจะเกิดขึ้นกับผู้ที่ประกันรถยนต์ขาดหรือผู้ที่ไม่ทำประกันรถยนต์ไว้เสมอ
ต่อประกันรถยนต์กับทางบริษัทโดยตรงหรือกับทางโบรคเกอร์ดี หลักๆแล้วการต่อประกันรถยนต์จะต่ออย่างไรก็ได้ กรณีที่เราต่อกับโบรคเกอร์ เมื่อประกันของเราใกล้จะหมดก็มีจดหมายเพื่อให้จ่ายค่าต่อประกันมาให้
สามารถนำจดหมายดังกล่าวไปชำระเพื่อจ่ายค่าต่อประกันได้เลย แต่ในกรณีที่เราไม่ต้องการต่อประกันกับโบรคเกอร์ดังกล่าวสามารถไปติดต่อกับทางบริษัทที่เราต้องการต่อประกันโดยตรงได้เลย ซึ่งอาจจะเสียค่าต่อมากกว่าที่จ่ายกับโบรคเกอร์อยู่เป็นประจำก็เป็นได้ แต่ข้อดีคืออาจจะได้ในส่วนของแถมมาติดมือนิดๆหน่อยๆก็เป็นได้