อยากได้อะไรจากการถ่ายพรีเวดดิ้ง

1. เลือกสถานที่ถ่ายพรีเวดดิ้งในแบบเรา

สิ่งแรกที่ต้องคำนึงถึงก็คือจุดประสงค์ที่คุณต้องการถ่ายพรีเวดดิ้ง เพราะคุณจะต้องมีความสะดวกใจและสบายใจที่จะทำตามธีมถ่ายรูปพรีเวดดิ้งที่คุณกำหนด เพราะหากคุณรู้สึกไม่เป็นตัวเองและไม่รู้สึกสะดวกใจจะทำ รูปที่ออกมาอาจไม่สวย อย่างเช่น ถ้าหากคุณเป็นคนที่ค่อนข้างอายกล้อง ไม่ค่อยชอบอยู่ในที่ที่มีผู้คนเยอะๆ คุณและคู่รักก็สามารถเลือกสถานที่ถ่ายพรีเวดดิ้งที่ค่อนข้างเงียบหรือเป็นที่ไม่กว้างนักค่ะ

ให้คุณลองถามตัวเองต่อว่ารูปถ่ายที่จะนำมาใช้นั้นเข้ากับธีมงานแต่งหรือไม่ ถ้าหากงานแต่งงานของคุณเป็นงานเล็กๆไม่ได้เป็นทางการมาก การเลือกสถานที่ถ่ายพรีเวดดิ้งที่ดูน่ารักๆไม่ต้องหรูอลังการ ก็พอเหมาะพอเจาะกับขนาดงานของคุณแล้ว

หรือให้ลองนึกถึงการนำภาพถ่ายพรีเวดดิ้งไปใช้ในส่วนประกอบอื่นๆในงานแต่งงาน เช่นตอนบนการ์ด ตอนทำสไลด์โชว์ หรือการทำโปสเตอร์ต่างๆ ก็อาจจะมีผลต่อการเลือกสถานที่ถ่ายพรีเวดดิ้งให้เหมาะอีกด้วย

2. ในสถานที่ถ่ายพรีเวดดิ้ง มีองค์ประกอบอะไรที่อยากเน้นให้เด่น?

ตัวอย่างเช่น บางคู่รักเลือกสถานที่ถ่ายพรีเวดดิ้งที่มีฉากหลังเป็นหอไอเฟลอันแสดงถึงความโรแมนติกขั้นสุด หรือต้องการจะเน้นย้ำถึงสถานที่ที่เคยมีความทรงจำร่วมกัน เช่นอาจจะเป็นที่สวนสาธารณะหรือร้านกาแฟเล็กๆสักร้านที่เคยมาเจอกัน
ถ่ายรูปพรีเวดดิ้ง เน้นตัวบุคคล

หรือจริงๆแล้วคุณอาจจะอยากให้รูปภาพออกมาโฟกัสที่ตัวคุณและคู่รักเป็นหลัก ถ้าเป็นเช่นนั้น การเลือกสถานที่ถ่ายพรีเวดดิ้งก็อาจจะไม่จำเป็นมากนัก แต่คุณก็ต้องเลือกสตูดิโอแบบ indoor ที่มีคุณภาพและจัดแสงให้เราได้สวย
ถ่ายพรีเวดดิ้ง ธีมสนุกสนาน

หรือบางครั้งคุณอยากได้รูปภาพที่สื่อถึงความสนุกสนาน คุณและคู่รักก็สามารถเลือกสถานที่ถ่ายพรีเวดดิ้งที่มีความสนุกสนานอยู่ เช่นสวนสนุก ไปเล่น paintball หรือแม้แต่การไปขี่จักรยาน ความสนุกสนานที่ได้รับจากสถานที่จะทำให้คุณเกร็งน้อยลงและถ่ายภาพออกมาได้เป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น

3. เดินไกลไหวหรือเปล่า?
สถานที่ถ่ายพรีเวดดิ้ง ที่ต้องเดินไกล

ในการเลือกสถานที่ถ่ายพรีเวดดิ้ง สถานที่ที่มีฉากสำคัญสำคัญกระจายอยู่ห่างกันมากจะเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้คุณต้องกลับมาคิดถึงสถานที่ใหม่ เพราะแน่นอนว่าการแต่งตัวของเราจะต้องจัดเต็ม ใส่ส้นสูง ยืนนานๆได้ แต่ถ้าให้เดินอาจจะไม่ไหว หรือถ้าหากต้องการถ่ายภาพที่สถานที่นั้นจริงๆ ให้ติดเอารองเท้าแตะและพกอุปกรณ์กันแดดต่างๆไปด้วย

หรือถ้าคิดว่าคุณและคู่รักคงเดินไกลไม่ไหวจริงๆ ก็ให้เลือกสถานที่ถ่ายพรีเวดดิ้งที่มีเพียงพื้นที่เล็กๆแต่มีมุมให้เราถ่ายรูปได้หลากหลายจะดีกว่าค่ะ

4. ลุยป่าลุยเขาไหวไหม?
สถานที่ถ่ายพรีเวดดิ้ง ในป่าเขา

คู่แต่งงานหลายๆคู่ก็เป็นคนที่รักธรรมชาติและอยากจะเก็บความทรงจำดีๆ ให้มีภาพของทิวทัศน์ภูเขาและต้นน้ำอยู่ในภาพถ่ายพรีเวดดิ้งด้วย เช่นที่เขาใหญ่ที่เราจะเห็นหลายๆคู่ก็มักไปถ่ายภาพพรีเวดดิ้งกัน แต่การเลือกสถานที่ถ่ายพรีเวดดิ้งที่ต้องลุยป่าลุยเขานั้น ก็อาจจะยุ่งยากสำหรับการแบกชุดถ่ายพรีเวดดิ้งเดินไปกับเราร่วมกว่าครึ่งชั่วโมงเพื่อไปถึงจุดที่ต้องการ จะยิ่งทำให้เราเหนื่อยขึ้น ภาพที่ออกมาก็อาจจะดูล้าได้

อยากแนะนำว่าถ้าใครเป็นสายผจญภัยและกำลังจะแต่งงาน หากต้องการสถานที่ถ่ายพรีเวดดิ้งในป่าเขาจริงๆ ควรไปตั้งแคมป์นอนค้างสักคืนใกล้ๆกับบริเวณที่จะถ่าย ตื่นเช้ามาจะได้แต่งหน้าแต่งตัวได้พร้อมนั่นเองค่ะ