การทำงานของอุปกรณ์ไฟกระพริบ

ไฟสัญญาณป้องกันการชนกันระหว่างเครื่องบิน คุณลักษณะนั้นจะเป็นไฟกระพริบหรือหมุนเพื่อเรียกร้องความสนใจ แบ่งเป็นสองอย่างใหญ่ๆคือ

  1. Strobe lights : เป็นไฟสัญญาณที่มีความเข้มสูงทำให้สามารถมองเห็นได้จากระยะไกล ด้วยความที่เป็นไฟกระพริบจึงทำให้เป็นที่ดึงดูดความสนใจได้ มันจึงเป็นไฟสัญญาณหลักในการที่จะป้องกันไม่ให้เครื่องบินชนกัน และมันช่วยเพิ่มความสามารถในการมองเห็นอย่างในกรณีตอนกลางคืน หรือสภาพอากาศเลวร้ายที่ทำให้ทัศนวิสัยลดลง หรือการจราจรทางอากาศหนาแน่น และไฟชนิดนี้สามารถบอกได้ว่าเครื่องบินลำนั้นมีขนาดเท่าใด เนื่องจากติดตั้งไว้ที่ปลายปีกทั้งสองข้างทำให้เราสามารถประมาณความยาวของ Wingspan (ระยะที่วัดจากปลายปีกอีกข้างหนึ่งไปยังปลายปีกอีกข้างหนึ่ง) ไฟชนิดนี้มักจะเปิดขณะตั้งตัวบนทางวิ่ง (Line up) หากเปิดในขณะขับเคลื่อน (Taxi) มันอาจกลายเป็นสิ่งรบกวนเครื่องบินลำอื่นหรือผู้คนที่อยู่รอบข้างได้
  2. Beacon lights : ไฟสัญญาณชนิดนี้มีสีแดง ลักษณะการทำงานจะเป็นการหมุนทำให้ดูเหมือนเป็นไฟกระพริบ (นึกถึงไฟไซเรนที่ติดตั้งบนรถตำรวจหรือรถพยาบาล) มันจึงเป็นที่มาของคำว่า Rotating beacon หรือเป็นไฟกระพริบไปเลยก็ได้ ส่วนใหญ่จะติดตั้งไว้ที่ลำตัวเครื่องบินทั้งบนและใต้ลำตัว เป็นไฟที่บอกถึงการปฏิบัติงาน (Operation) ของเครื่องบิน จะเริ่มเปิดตั้งแต่ก่อนเครื่องยนต์ติด และจะทำงานตลอดเวลาจนกระทั่งดับเครื่องยนต์เครื่องสุดท้าย เพื่อป้องกันอันตรายกับบุคคลที่ทำงานบนภาคพื้นดินในขณะที่เครื่องยนต์หรืออุปกรณ์อื่นๆทำงานอยู่