ในยุคสมัยที่ได้มีเรื่องของการทำงานที่เป็นวงกว้างมากยิ่งขึ้น จากการที่ระบบเศรษฐกิจได้มีการพัฒนาเพิ่มขึ้นมาเป็นอย่าง ทำให้เรื่องของการทำงานในด้านต่าง ๆ เองก็มีรูปแบบการจัดระบบใหม่มากกว่าปกติจากเดิมเพื่อที่จะรองรับรูปแบบการพัฒนาของระบบเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ทำให้เรื่องของการทำธุรกิจในด้านต่าง ๆ เหล่านี้เองก็จำเป็นที่จะต้องมีเรื่องของการพัฒนามากยิ่งขึ้นจากการที่ได้มีเรื่องของเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการทำงานในระบบให้มีความทันสมัยมากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งรองรับความต้องการของผู้คนในยุคสมัยปัจจุบันตลอดเวลาที่ได้มีการใช้บริการเช่นกัน เพื่อที่จะให้มีการเกิดรายได้เข้ามาสู่ธุรกิจให้มีการหมุนเวียนการทำธุรกิจต่อไป

จากการที่ได้มีเรื่องของการพัฒนาทางด้านเทคโนโลยีนี้เองทำให้เรื่องของระบบการทำงานก็มีการปรับเปลี่ยนและใช้แรงงานมากยิ่งขึ้น และธุรกิจที่เห็นได้ชัดเจนมากที่สุด ไม่พ้นธุรกิจทางด้านอุตสาหกรรมที่ได้มีเรื่องของการใช้แรงงานคนที่ค่อนข้างใช้เป็นจำนวนมากและอาจจะมีการใช้แรงงานที่ค่อนข้างสูงที่จำเป็นต้องทำงานเป็นระยะเวลานานทำให้ต้องมีเรื่องของความอดทนค่อนข้างสูง แต่การทำงานอุตสาหกรรมเองก็มีความเสี่ยงในเรื่องต่าง ๆ เช่นกันสำหรับแรงงานที่เป็นกำลังการผลิตให้กับการทำงานอุตสาหกรรม ซึ่งความเสี่ยงจากการทำงานอุตสาหกรรมที่สามารถเห็นได้ชัดเจนมากที่สุดจะแบ่งได้ชัดเจนดังนี้

1. ความเสี่ยงจากการทำงานที่ได้ทำงานเป็นระยะเวลานานอย่างต่อเนื่อง
   ในเรื่องของการทำงานในธุรกิจอุตสาหกรรมก็ต้องขึ้นชื่อในเรื่องของการทำงานที่จะต้องมีการทำงานเป็นระยะเวลาที่ต่อเนื่อง จนแทบอาจจะไม่ได้พักเลยก็ว่าได้ ซึ่งจากการทำงานระยะเวลานานนี้เอง หากไม่ได้มีการพักผ่อนหรือการมีสุขภาพที่ดีนั้น อาจจะส่งผลกระทบที่ทำให้ร่างกายนั้นมีปัญหาเกิดขึ้นมาได้ และมีความเสี่ยงที่อาจจะเป็นโรคเรื้อรังจากการทำงานอุตสาหกรรมบางชนิด
2. ความเสี่ยงจากการทำงานหากไม่มีความชำนาญต่อการเปลี่ยนแปลงรูปแบบธุรกิจ
   จากที่กล่าวมาข้างต้นในเรื่องของระบบเศรษฐกิจที่ได้มีเรื่องของการพัฒนาที่มากขึ้นมากกว่าแต่ก่อน ทำให้เรื่องของระบบการทำงานทางด้านอุตสาหกรรมเองก็มีการปรับเปลี่ยนที่อาจจะได้มีการนำเครื่องจักรรูปแบบใหม่ ๆ มาลงให้ใช้งานกันแต่ถ้าหากไม่ได้มีการฝึกอบรมแล้วให้มาใช้งานกัน อาจจะส่งผลที่เป็นความเสี่ยงอันตรายต่อแรงงานที่ทำงานได้
3. ความเสี่ยงในเรื่องของการทำงานที่อาจไม่ได้รับสวัสดิการการคุ้มครอง
   การทำงานทางด้านอุตสาหกรรมนั้นเป็นงานที่ขึ้นชื่อในเรื่องของความเสี่ยงที่มีอยู่ตลอดเวลาอยู่แล้ว ทำให้จะต้องมีเรื่องของการคุ้มครองชีวิตเอาไว้ จากการที่เจ้าของธุรกิจจะต้องมีเรื่องของการจัดแจงการทำประกันเอาไว้ให้แก่แรงงานทั้งหมดเพื่อเป็นหลักประกันในการคุ้มครองที่อาจจะเกิดขึ้นกับแรงงานให้ได้รับผลตอบแทนที่คุ้มค่าแก่การทำงานทั้งหมดที่ได้ทำมาตลอด

จากที่ได้เห็นกันแล้วว่าในเรื่องของความเสี่ยงจากการทำงานอุตสาหกรรมเองนั้นก็จำเป็นที่จะต้องมีการเตรียมตัวเอาไว้เพื่อป้องกันความเสี่ยงเอาไว้ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาจากการทำงานในธุรกิจทางด้านอุตสาหกรรม เพราะการทำงานอุตสาหกรรมเองก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงความเสี่ยงเหล่านี้ได้นั้นเอง

ผิวขาวกระจ่างใสใครๆ ก็อยากมี สิ่งนี้กลายเป็นค่านิยมของคนไทยไปแล้วค่ะ

สำหรับในตอนนี้นั้นต้องมีผิวขาวถึงจะดูสวย ดูน่ามอง แต่เอาเข้าจริงสมัยนี้ ผิวขาวไม่เท่ากับสวยเสมอไป เพราะมีหลายคนพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าถึงแม้จะมีผิวที่เข้ม ไม่ได้ขาวจั๊วะแต่ก็ดูดี ดูสวยในแบบฉบับของตัวเองได้ แต่มีผิวสวย แลดูสุขภาพดี นุ่ม ลื่น น่าสัมผัส ผิวเปล่งปลั่งนี่สิ น่ามองกว่า เรามาดูกันว่าโลชั่นผิวขาวที่เราใช้กันทุกวันนั้นจะช่วยเราในการบำรุงเรื่องอะไรบ้าง

ช่วยทำให้ผิวชุ่มชื้น

น่าจะมีสาวๆ หลายคนที่นั่งเรียนในห้องแอร์ตลอด สภาพอากาศ ความร้อน ลม ล้วนเป็นสาเหตุที่ทำให้ผิวของเราแห้งและขาดความชุ่มชื้น การทาโลชั่นผิวขาวจึงเปรียบเสมือนการเติมน้ำและความชุ่นชื้นให้กับผิวนั่นเอง

ช่วยบำรุงผิวบริเวณที่แห้งกร้านมากเป็นพิเศษ

ถึงแม้ว่าเราจะบำรุงผิวเป็นอย่างดีแล้วก็ตาม แต่ก็ยังมีจุดที่ต้องการการบำรุงมากเป็นพิเศษมากกว่าส่วนอื่น อย่างข้อศอก หัวเข่า และตาตุ่ม สาวๆ อาจใช้โลชั่นผิวขาวที่มีความเข้มข้นมากเป็นพิเศษทาซ้ำตรงบริเวณนั้นๆเพื่อบำรุงให้ผิวเนียนนุ่มค่ะ

โลชั่นมีกลิ่นหอม ทำให้ผ่อนคลาย

กลิ่นหอมของโลชั่นผิวขาวมีให้เลือกหลายแบบตามใจที่สาวๆ ชอบเลยค่ะ ยิ่งเวลาที่เราได้ทาโลชั่นผิวขาวลงบนตัว เหมือนเป็นช่วงเวลาที่เราได้ดูแลตัวเอง และเป็นตัวของตัวเองมากที่สุด ทำให้เรารู้สึกผ่อนคลายอีกด้วยค่ะ

ทำผิวดูเปล่งปลั่งและมีสุขภาพดี

นอกจากเราจะทาโลชั่นผิวขาวเพื่อทำให้ผิวชุ่มชื้นแล้ว โลชั่นยังช่วยให้ผิวของเราดูมีสุขภาพดี เปล่งปลั่ง และนุ่มนิ่มน่าสัมผัสด้วย

สำหรับคนที่ต้องการมีรถยนต์ส่วนตัวหรือต้องการที่จะซื้อรถคันแรกไม่ใช่ว่าซื้อมาแค่เพียงแค่ว่าอยากได้หรือต้องการที่จะมาอวดคนอื่นอย่างเดียวเพราะเมื่อเรามีรถแล้วสิ่งที่ต้องมากับการซื้อรถคือการดูแลรักษารถยนต์ให้ดีเหมือนกับว่าดูแลสุขภาพร่างกายของเราเอง ทีนี้มาดูกันว่าหลักๆแล้วคนที่มีรถยนต์ต้องเตรียมตัวในการดูแลรักษาอย่างไร

รถยนต์ต้องเติมน้ำมัน แน่นอนว่าคนที่ซื้อรถยนต์มาแล้วยังต้องคำนวณในส่วนของค่าน้ำมันด้วย ในกรณีที่ท่านขับรถไปทำงานหรือต้องเดินทางไป-กลับในระยะทางดังกล่าวทุกวัน ต้องคำนวณดูว่าค่าใช้จ่ายในส่วนนี้คุ้มค่าหรือไม่ ถ้าในกรณีที่สถานที่ทำงานของเรามีรถไฟฟ้าผ่านแนะนำว่าให้นั่งรถไฟฟ้าหรือรถไฟใต้ดินจะประหยัดกว่าการขับรถไป เพราะการขับรถนอกจากจะใช้น้ำมันแล้วการจราจรในตอนเช้ายังติดขัดทำให้เราเสียเวลามากยิ่งขึ้นอีกด้วย

รถยนต์ต้องมีประกัน บางคนที่สงสัยว่ามีพรบ.แล้วยังต้องทำประกันอีกหรือไม่ คำตอบคือ ต้องทำเพราะพรบ.เป็นกรมธรรม์ภาคบังคับกฎหมายสำหรับบุคคลที่เป็นผู้ครอบครองรถยนต์ต้องทำเพื่อในเวลาที่รถยนต์ของท่านต้องต่อภาษีหรือกรณีที่เกิดขับไปชนคนเดินถนนเข้า พรบ.ก็จะจ่ายให้ท่านในส่วนนึง แต่ประกันรถยนต์ชั้น 1,2,3 จะคุ้มครองในส่วนของค่าเสียหายรถยนต์และผู้ขับขี่ซึ่งจะทำหรือไม่ทำก็ได้ แต่เพื่อความปลอดภัยแล้วท่านควรต่อประกันรถยนต์จะเป็นการดีที่สุดเพราะเมื่อเกิดเหตุชนกันขึ้นค่าเสียหายในส่วนที่ประเมินออกมาจะค่อนข้างสูงถ้าเราไม่ได้ทำประกันรถยนต์ไว้จะทำให้ปวดหัวภายหลังได้ และสิ่งที่เราขาดไม่ได้เลยคืออย่าลืมเรื่องต่อประกันรถยนต์เพราะเรามักจะคิดเสมอในตอนที่ประกันขาดว่าเดี๋ยวค่อยไปต่อก็ได้ขาดแค่อาทิตย์สองอาทิตย์ไม่เป็นไร โดยส่วนมากแล้วอุบัติเหตุจะเกิดขึ้นกับผู้ที่ประกันรถยนต์ขาดหรือผู้ที่ไม่ทำประกันรถยนต์ไว้เสมอ

ต่อประกันรถยนต์กับทางบริษัทโดยตรงหรือกับทางโบรคเกอร์ดี หลักๆแล้วการต่อประกันรถยนต์จะต่ออย่างไรก็ได้ กรณีที่เราต่อกับโบรคเกอร์ เมื่อประกันของเราใกล้จะหมดก็มีจดหมายเพื่อให้จ่ายค่าต่อประกันมาให้

สามารถนำจดหมายดังกล่าวไปชำระเพื่อจ่ายค่าต่อประกันได้เลย แต่ในกรณีที่เราไม่ต้องการต่อประกันกับโบรคเกอร์ดังกล่าวสามารถไปติดต่อกับทางบริษัทที่เราต้องการต่อประกันโดยตรงได้เลย ซึ่งอาจจะเสียค่าต่อมากกว่าที่จ่ายกับโบรคเกอร์อยู่เป็นประจำก็เป็นได้ แต่ข้อดีคืออาจจะได้ในส่วนของแถมมาติดมือนิดๆหน่อยๆก็เป็นได้

การแบ่งกลุ่มลูกค้าคืออะไรและทำไมคุณต้องห่วง?

เจ้าของธุรกิจโดยไม่คำนึงถึงขนาดของธุรกิจโดยเฉพาะกำลังพยายามค้นหาสิ่งที่ทำให้พวกเขาโดดเด่นกว่าคู่แข่ง พวกเขาเดินผ่านทะเลของศัพท์แสงอุตสาหกรรมและในระลอกที่เคยนำเสนอความคิดที่จะแยกความแตกต่างของตัวเองแนวคิดของการแบ่งส่วนลูกค้ายืนมากที่สุดอาจจะยากที่จะหมุดลง

การแบ่งกลุ่มลูกค้าเป็นพื้นฐานที่สุดขอให้ธุรกิจแบ่งฐานลูกค้าออกเป็นกลุ่มที่คล้ายคลึงกันในบางด้าน โดยพื้นฐานแล้วคุณกำลังพยายามทำให้ลูกค้าประสบปัญหาเกี่ยวกับสิ่งเหล่านั้นซึ่งทำให้ บริษัท / ผลิตภัณฑ์ของคุณเข้าถึงพวกเขาได้ดีที่สุด คือการโฆษณาและการตลาด 101. บริษัท ต่างให้ความสำคัญกับกลุ่มใหม่ ๆ เหล่านี้เพื่อให้ภาพที่ชัดเจนยิ่งขึ้นเป็นสิ่งที่ทำให้ลูกค้ามีเอกลักษณ์และลักษณะที่โดดเด่นเหล่านี้สามารถนำไปสู่ผลกำไรได้อย่างไร

ตัวอย่างเช่นสมมุติว่าร้านขายเพลงที่เชี่ยวชาญด้านเรกล็อกไวนิลเลือกเอเจนซี่โฆษณาเพื่อช่วยกำหนดเป้าหมายผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าใกล้พื้นที่ทางภูมิศาสตร์ที่เฉพาะเจาะจง หน่วยงานจะพยายามหาพฤติกรรมของประชาชนที่เกี่ยวข้องกับดนตรี มีผู้เข้าร่วมคอนเสิร์ตกี่คน? ดนตรีประเภทใดที่มีความนิยมมากที่สุดในแนวโน้มเพลงดิจิตอลในพื้นที่? ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยของผู้อยู่อาศัยเมื่อเทียบกับงบประมาณ “ดนตรีและความบันเทิง” มีอะไรบ้าง ข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์ต่อการจัดเก็บเพลงเพื่อทราบว่าควรจะสต็อกวิธีการกำหนดราคาผลิตภัณฑ์ของตนและแม้ว่าการนำเสนอรูปลักษณ์ของศิลปินในร้านอาจเป็นวิธีดึงลูกค้าเข้าสู่ประตูได้

กลยุทธ์นี้สามารถให้ บริษัท ค่อนข้างได้เปรียบและทำไมมันจะไม่? ท้ายสุดคุณกำลังพยายามหาวิธีที่จะสร้างรายได้จากลักษณะและพฤติกรรมของลูกค้าได้ดีที่สุด การแบ่งกลุ่มลูกค้าไม่ต้องสงสัยมีสถานที่ที่เป็นธุรกิจที่ปฏิบัติได้จริง แต่เหตุใดจึงมีความสำคัญกับธุรกิจของคุณ กล่าวอีกนัยหนึ่งทำไมต้องดูแล? ง่าย — เกี่ยวกับเงิน ธุรกิจทุกขนาดพยายามที่จะดึงเอาประโยชน์สูงสุดจากเงินที่ใช้ไปทั้งหมดและการตลาดที่มีประสิทธิภาพจะไม่มีข้อยกเว้น หากคุณสามารถกำหนดเป้าหมายการตลาดไปยังส่วนของประชากรที่จะทำให้คุณประสบความสำเร็จได้แล้วทำไมคุณต้องใช้เงินโฆษณาของคุณที่อื่น นอกจากนี้ความพยายามที่มีต่อกลุ่มเป้าหมายจะกระทบกับคอร์ดที่แตกต่างซึ่งเป็นกลุ่มที่มีความสามารถในการขยายกลุ่มเกินกว่ากลุ่มเดิมและสร้างผลกำไรมากขึ้น

สิ่งสำคัญที่ต้องจดจำเกี่ยวกับการแบ่งกลุ่มลูกค้าคือเพื่อให้ธุรกิจสามารถพัฒนาและประสบความสำเร็จได้ต่อไปผู้ที่รับผิดชอบด้านการตลาดจำเป็นต้องระบุส่วนงานทางการตลาดที่สามารถมองเห็นได้ในภายหลังว่าเป็นกลุ่มที่ทำกำไรได้มากขึ้น การแบ่งส่วนต้องเป็นแบบไดนามิกมากกว่าแบบคงที่ หากธุรกิจของคุณสามารถกำหนดเป้าหมายเฉพาะผลิตภัณฑ์ของตนไปยังกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งที่อาจเปลี่ยนนิสัยของตนได้แล้วจะต้องมีการคาดการณ์ว่าลูกค้ารายนี้มีเป้าหมายในอนาคต (ระยะสั้นหรือระยะยาว) และสิ่งที่เป็นไปได้อื่น ๆ กลุ่มลูกค้าให้ความสนใจ

การแบ่งส่วนลูกค้าเป็นส่วนสำคัญของกลยุทธ์การโฆษณาและการตลาดที่มีประสิทธิภาพสำหรับ บริษัท ใด ๆ อย่างไรก็ตามโปรดจำไว้เสมอว่าการรักษากลยุทธ์การตลาดที่ประสบความสำเร็จหมายถึงการเป็นพาร์ทเนอร์ที่ใช้งานอยู่ในกระบวนการนี้

ภาพเคลื่อนไหว : การเดินทางไกล

หายไปเป็นวันที่เมื่อ cartoonists ต้นและอนิเมเตอร์พยายามที่จะทำให้ภาพเคลื่อนไหวด้วยภาพวาดวาดด้วยมือและกราฟิก วอลต์ดิสนีย์ที่ยิ่งใหญ่ใช้ในการวาดผลงานต้น ๆ ของเขาให้มากที่สุด ผลงานของเขาเป็นจุดยอดและเป็นแรงบันดาลใจให้กับนักออกแบบแอนนิเมชั่นและนักออกแบบกราฟิกที่มีอยู่ทั่วโลก

ภาพยนตร์การ์ตูนร่วมสมัยเป็นสุดยอดในอุตสาหกรรมภาพยนตร์สมัยใหม่ การแสดงกราฟิกภาพเคลื่อนไหวและ CGI ที่ไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อนมาก่อน

การพัฒนาด้านเทคโนโลยีในด้านไอทีและการออกแบบได้สร้างความเป็นไปได้มากมายให้กับนักสร้างแอนิเมชั่นสมัยใหม่ ศิลปินกราฟฟิกและแอนิเมชั่นกลายเป็นเรื่องง่ายสำหรับความพยายามของพวกเขามากขึ้นเนื่องจากเทคโนโลยีของยุคของเราได้รับอนุญาตอย่างยิ่งโดยมีความก้าวหน้าใหม่ ๆ และก้าวร้าวเกิดขึ้นทุกวัน

ภาพเคลื่อนไหวมานานและลำบากตั้งแต่วันแรกด้วยการสร้างภาพเคลื่อนไหวแบบสมัยใหม่เพื่อให้สมจริงอย่างทั่วถึงคุณสามารถเข้าถึงและสัมผัสได้

การมาถึงของคอมพิวเตอร์และการประยุกต์ใช้คอมพิวเตอร์ที่ทันสมัยในช่วงหลายปีที่ได้รับการปฏิวัติและพวกเขาควรจะให้เครดิตสำหรับความสำเร็จของอุตสาหกรรมการเคลื่อนไหวในปัจจุบัน

ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีในอุตสาหกรรมแอนิเมชั่นเป็นกระบวนการที่ไม่มีที่สิ้นสุดและคาดว่าจะเติบโตได้โดยการก้าวกระโดดแม้กระทั่งเหนือกว่าแนวโน้มในปัจจุบันของ “ยิ่งใหญ่และดีขึ้น”

เช่น CGI เช่น Computer Generated Imagery จะไปไกลกว่ากฎทางฟิสิกส์ที่กำหนดไว้ นักเคลื่อนไหวสามารถมีตัวละครเคลื่อนไหวของพวกเขาดำเนินการเป็นไปไม่ได้บางครั้งแปลกประหลาด, ความสำเร็จโดยใช้ CGI ขั้นสูง

สถานะปัจจุบันของ CGI เป็นผลมาจากนวัตกรรมในวิธีการที่เราแก้ไขอัลกอริทึมคอมพิวเตอร์และการปรับปรุงความกระชับของวงจรรวมพร้อมกับการพัฒนาซอฟต์แวร์ต่างๆ

CGI ไม่เพียง แต่มีประสิทธิภาพ แต่ยังคุ้มค่า มันเป็นทางเลือกที่ถูกกว่ารูปแบบอื่น ๆ ของภาพเคลื่อนไหวไม่ต้องพูดถึงต้องสร้างชุดขนาดเล็กที่มีราคาแพงและสถานการณ์ แน่นอนว่ามันมีจุดอ่อนของตัวเอง อนิเมเตอร์ CGI ยังจับภาพอารมณ์และการเคลื่อนไหวของมนุษย์ที่ซับซ้อน

ไม่ว่ามนุษย์ที่มีชีวิตชีวาจะมีรูปร่างเหมือนจริง แต่ก็ยังมีการเคลื่อนไหวและปฏิกิริยาที่ จำกัด อยู่ พอลเอเอกแมนนักจิตวิทยาชาวอเมริกันได้จัดแบ่งอารมณ์ความรู้สึกของมนุษย์ออกเป็น 6 ประเภทและมีอยู่อย่างแพร่หลายในทุกคนในโลก อารมณ์ความรู้สึกที่เขาจำได้คือความสุขความเศร้าความประหลาดใจความกลัวความโกรธและความรังเกียจ เขาเสริมอารมณ์ความรู้สึกที่เจ็ดต่อมาว่าเป็นการดูถูก

ผู้สร้างภาพไม่สามารถจับภาพอารมณ์ทั้งหมดที่กล่าวมาข้างต้นได้ แต่ยังคงมีการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นทุกวันซึ่งอาจเป็นจริงได้

ดังนั้นการถือครองภาพเคลื่อนไหวและภาพเคลื่อนไหวในอนาคตจะเป็นอย่างไร?

นี่เป็นกระบวนการที่ไม่มีที่สิ้นสุดและอนาคตก็ดูสดใสสำหรับภาพเคลื่อนไหวและอนิเมเตอร์ สำหรับการแสดงภาพแบบภาพจริงในภาพเคลื่อนไหวจะมีการใช้งานมากขึ้น

การเสียชีวิตของ Paul Walker ทำให้แฟน ๆ ของ Fast & The Furious ได้รับสิทธิพิเศษและพี่น้องภาพยนตร์เรื่องนี้โดยทั่วไป สิ่งที่น่าหงุดหงิดมากคือความจริงที่ว่าเขาเสียชีวิตในระหว่างการถ่ายทำ Furious 7

แต่นั่นก็ไม่ได้เป็นการหยุดการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องนี้ แต่หนังเรื่องนี้ก็เสร็จสมบูรณ์ด้วยความช่วยเหลือของการฉายภาพด้วยแสงซึ่งเป็นคู่แบบดิจิทัลหรือเสมือนนักแสดงพร้อมด้วยรูปลักษณ์และความคล้ายคลึงของพอลวอล์คเกอร์และพี่ชายของวอล์คเกอร์ เพื่อสรุปภาพยนตร์

เทคโนโลยีนี้ใช้ไม่ได้เกือบสิบปีที่ผ่านมาทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ไร้ประโยชน์และมีแนวโน้มที่จะได้รับความนิยมมากที่สุด การสิ้นพระชนม์ของนักแสดงนำจะทำให้การถ่ายทำทั้งหมดถูกยกเลิกไป ในกรณีที่มีผู้ใช้หลายล้านคนต้องใช้เวลาและยกเลิกก็จะไม่เป็นทางเลือกสตูดิโอน่าจะใช้เงินอีกนับล้านในการถ่ายทำใหม่กับนักแสดงใหม่ด้วยความหวังว่าจะได้ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องนี้

วันนี้ไม่ไกลนักเมื่อการสร้างภาพยนตร์จะเป็นเรื่องที่ถูกกว่ามากเนื่องจากจะสามารถแทนที่นักแสดงด้วยความคล้ายคลึงกันแบบดิจิทัลได้ง่ายขึ้น ลองจินตนาการถึงความสามารถในการชุบชีวิตนักแสดงที่ฟื้นคืนชีวิตแบบดิจิทัลผู้ซึ่งเสียชีวิตไปแล้วหรือไม่สามารถถ่ายทำโดยเฉพาะได้เนื่องจากความขัดแย้งในกำหนดเวลา

วิทยาศาสตร์แอนิเมชั่นจะยังคงมีวิวัฒนาการไปเรื่อย ๆ และเติบโตในขนาดที่อาจเกินกว่าสถานการณ์ปัจจุบัน ความฉลาดของมนุษย์คือไร้ขีด จำกัด ตราบเท่าที่เรามีคนที่ฝันจะมีการใช้เทคโนโลยีขั้นสูงอย่างต่อเนื่องทำให้ภาพเคลื่อนไหวมีระดับสูงขึ้น

ผลงาน และประสบการณ์เป็นหัวใจหลักในการถ่ายภาพ ช่างภาพงานแต่งงาน ที่มีความชำนาญ มักมีมุมมองที่จะถ่ายทอดอารมณ์ และความรู้สึก ของภาพถ่าย เพื่อให้คู่บ่าว-สาวได้เก็บความประทับใจไว้ในช่วงเวลาที่สำคัญ ซึ่งช่างภาพแต่ละคนก็จะมีสไตล์การถ่ายภาพที่ไม่เหมือนกันอันนี้เจ้าบ่าว และเจ้าสาวสามารถเลือกได้ตามใจชอบเลยค่ะ แต่สิ่งที่ควรคำนึงถึงเป็นอย่างมากก็คือ

การถ่าย set up และ detail ในงานแต่งได้หลากหลายรูปแบบ
เก็บ ภาพบรรยากาศของงานแต่งได้อย่างครบถ้วน รวมถึงภาพเหตุการณ์สำคัญของคู่บ่าว – สาวที่ถ่ายทอดออกมาในช่วงเวลาแห่งความประทับใจได้เป็นอย่างดีโดยไม่มีตกหล่น
สไตล์การถ่ายภาพควรมีหลายแบบ เช่น close up และ candid
อุปกรณ์การถ่ายภาพต้องครบองค์ประกอบ และมีความทันสมัยพอสมควร
ควรมีลูกเล่นการถ่ายภาพกับแขกในงานเพื่อให้เกิดความสนุก และสร้างความเป็นกันเองให้กับผู้ร่วมงาน
คู่ บ่าว – สาวสมควรหาเวลาเข้าไปเจอช่างภาพ และพูดคุยเพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับพิธีการต่างๆ ที่จัดขึ้นซึ่งจะได้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจที่จะใช้บริการ และถ้าคู่บ่าว-สาวที่มีมุมมอง ความชอบถ่ายภาพส่วนตัวควรแจ้งให้ช่างภาพทราบถึงเจตจำนงค์ในภาพที่ต้องการ
ราคาค่าใช้จ่ายของของช่างภาพ ควรอยู่ในงบประมาณที่ตั้งไว้ และรวมถึงข้อตกลงเกี่ยวกับอุปกรณ์ที่ช่างภาพเตรียมให้ในงานแต่ง
ข้อตกลงในการชำระเงิน ควรเป็นลายลักษณ์อักษรเพื่อเป็นหลักฐานให้ทั้ง 2 ฝ่ายเข้าใจตรงกันและถูกต้อง
วันส่งงาน ควรนัดส่งงานหลังจากวันงานจริงนั้นไม่เกิน 1 สัปดาห์ และคู่บ่าว – สาวควรตรวจสอบงานทั้งหมดในวันรับงาน

มุมมองใหม่ให้ไอเดีย

การทดลองอะไรใหม่ๆ มักจะทำให้เกิดไอเดียดีๆ ตามมาเสมอ การรับถ่ายภาพสินค้าก็เช่นกันค่ะ แทนที่จะติดอยู่กับมุมเดิมๆ ลองเปลี่ยนบรรยากาศดูบ้าง เช่น วางสินค้าให้หันด้านต่างๆ ทั้งด้านหน้า ด้านข้าง และด้านหลัง ลองถ่ายหลายๆ มุม ไม่ว่าจะเป็น ถ่ายจากด้านบน ด้านข้าง ใช้โหมดมาโคร (Macro) เพื่อถ่ายระยะใกล้ หรือถ่ายมุมเดียวกันแต่ลองถ่ายทั้งแนวตั้งและแนวนอน เพราะแต่ละมุมมองก็จะทำให้อารมณ์ของภาพมีความแตกต่าง แถมยังเป็นการเพิ่มตัวเลือกใหม่ๆ เวลาคัดเลือกรูปสินค้าไปใส่ในร้านอีกด้วยนะคะ และที่สำคัญที่สุดก็คือ ลูกค้าจะได้มีโอกาสเห็นสินค้าในมุมต่างๆ ได้อย่างละเอียดและชัดเจนมากขึ้นค่ะ

โฟกัสให้แม่น!

กล้องในปัจจุบันนี้เฉลียวฉลาดมากก็จริง แต่หลายๆ ครั้งโหมดโฟกัสอัตโนมัติ (Auto Focus) ก็ไม่สามารถเดาใจผู้ใช้ได้ถูกต้องเสมอไป เคยไหมคะที่ถ่ายภาพสินค้าแล้วกล้องดันไปโฟกัสที่ฉากหลัง กลายเป็นว่ารูปสินค้าเบลอ ในขณะที่ฉากหลังชัดกริบ หรือบางทีเบลอไปหมดทั้งสินค้าทั้งฉากหลัง คงจะไม่ดีแน่ถ้าลงรูปสินค้าแบบนี้ เพราะนอกจากจะทำให้ลูกค้ามองไม่เห็นรายละเอียดสินค้า ก็ยังทำให้แลดูไม่น่าซื้ออีกด้วย ฉะนั้น การโฟกัสจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามค่ะ

สำหรับกล้อง DSLR และกล้องดิจิทัลทั่วๆ ไป อย่าลืมกดชัตเตอร์ลดครึ่งหนึ่งเพื่อให้กล้องโฟกัสที่ตัววัตถุหรือบริเวณที่ต้องการก่อน แล้วจึงค่อยกดชัตเตอร์เพื่อถ่ายภาพนะคะ ส่วนกล้องมือถือและกล้องดิจิทัลระบบสัมผัสหน้าจอก็เช่นกัน อย่ารีบร้อนจนเกินไปค่ะ แตะหน้าจอบริเวณที่จะโฟกัส รอดูสักนิดให้มั่นใจว่ากล้องจับโฟกัสได้แล้วจึงค่อยกดถ่าย ทั้งนี้ทั้งนั้น อย่าลืมตรวจสอบรูปภาพก่อนอัพโหลดไฟล์กันด้วยนะคะ จะได้ไม่ต้องเสียเวลามาถ่ายซ่อมอีกรอบ

ดึงจุดเด่นด้วยฉากหลัง

สำหรับใครที่เจอปัญหาไม่มีมุมสวยๆ ในบ้านไว้ถ่ายรูปสินค้า เช่น ถ่ายภาพออกมาแล้วติดหน้าต่างมุ้งลวดในห้องบ้าง หรือถ่ายแล้วเห็นวอลเปเปอร์สีซีดๆ เป็นฉากหลังบ้าง ไม่ต้องห่วงค่ะ เรามาเนรมิตสตูดิโอถ่ายรูปเล็กๆ ในบ้านกันดีกว่า!

ก่อนอื่น หาจุดที่สภาพแสงพอเพียง ถ้าเป็นบริเวณที่ใกล้กับหน้าต่างได้ยิ่งดีค่ะ เปิดหน้าต่างให้กว้าง เปิดไฟให้สว่าง จากนั้นใช้กระดาษสีขาวแผ่นใหญ่วางรองสินค้าและวางตั้งขึ้นให้เป็นฉากหลัง (ถ้าไม่มีกระดาษแผ่นใหญ่ ใช้แผ่นเล็ก 2 แผ่นก็ได้ค่ะ) จากนั้นลองถ่ายภาพดู กระดาษขาวจะทำหน้าที่สะท้อนแสงและทำให้สินค้าดูสว่างสดใสมากขึ้น และเมื่อมีฉากหลัง ตัวสินค้าจะเป็นโดดเด่นขึ้นกว่าเดิมเพราะไม่มีสิ่งอื่นมากวนสายตาค่ะ แต่สำหรับสินค้าโทนสีขาวหรือสีอ่อน ให้ใช้ฉากสีที่เข้มขึ้นเพื่อให้สีตัดกับสินค้านะคะ ส่วนใครที่ชอบสีสัน ลองเปลี่ยนฉากขาวเป็นพื้นผิวแบบอื่นดูก็ได้ค่ะ เช่น โต๊ะไม้ ผ้าสีสวยๆ หรือกระดาษห่อของขวัญ ก็จะช่วยเพิ่มอารมณ์สนุกๆ ได้มากขึ้นค่ะ