หากย้อนไปประมาณ 10-20 ปีที่แล้ว การส่งของไปต่างประเทศ หรือที่เรียกว่า overseas shipping นับเป็นเรื่องที่ยาก เรามักเห็นกระทู้ต่างๆเกี่ยวกับการส่งของไปต่างประเทศ เช่น รูปแบบของการส่ง น้ำหนักเท่านี้ต้องส่งแบบไหน ใช้เวลากี่วัน ใช้เอกสารอะไรบ้าง ส่งทางไหน และอีกมากมาย ทั้งนี้เป็นเพราะค่าบริการส่งของไปต่างประเทศนั้นมักมีค่าใช้จ่ายสูง ทำให้เกิดความกังวลว่าของที่ส่งไปจะถึงมือผู้รับหรือไม่ แต่เมื่อเวลาผ่านไปทุกอย่างเกิดการพัฒนา เกิดการขนส่งแบบไร้พรมแดน ทำให้การส่งของไปต่างประเทศนั้นง่ายขึ้น มีบริษัทขนส่งเอกชนที่มีบริการส่งของไปต่างประเทศให้เลือกมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นการการจัดส่งพัสดุภายในประเทศ หรือระหว่างประเทศ มักจะมีปัญหาเกิดขึ้นบ้างในบางครั้ง
ปัญหาของการส่งของไปต่างประเทศ จะมีความละเอียดอ่อนมากกว่าการส่งของภายในประเทศ เช่น ปัญหาเรื่องสิ่งของข้างใน เอกสารหรือใบเคลมต่างๆ และการเลือกวิธีขนส่งที่ไม่เหมาะสมกับพัสดุที่จะส่ง จนทำให้หลายคนคิดว่าการส่งของไปต่างประเทศนั้นเป็นเรื่องยาก วันนี้ได้รวบรวม 4 ทริค ตรวจสอบให้ดีก่อนส่งของไปต่างประเทศ เพื่อให้การจัดส่งเป็นไปอย่างราบรื่นไม่ติดปัญหาใดๆ
ตรวจสอบกฎระเบียบของศุลกากร/แนบใบกำกับสินค้าที่เป็นภาษาอังกฤษ
พิธีศุลกากร ถือเป็นด่านแรกของการส่งพัสดุไปต่างประเทศ ถ้าพลาดจุดนี้ไป ก็จะเกิดปัญหาตามมาแน่นอน ผู้ส่งจำเป็นต้องมีใบกำกับสินค้าที่ถูกต้องและสมบูรณ์ เพราะเจ้าหน้าที่ศุลกากรจำเป็นต้องใช้ใบกำกับสินค้าในการประเมินภาษีและอากรที่อาจมี กรอกใบกำกับสินค้าให้ครบถ้วนและถูกต้องจะช่วยหลีกเลี่ยงความล่าช้าได้ และไม่ว่าต้นทางหรือปลายทางจะเป็นประเทศอะไร ก็ต้องกรอกเอกสารต่างๆเป็นภาษาอังกฤษเท่านั้น
แสดงคำอธิบายพัสดุให้ชัดเจน
หนึ่งในปัญหาที่ทำให้เกิดความล่าช้าของการส่งของไปต่างประเทศ คือการไม่ระบุถึงตัวพัสดุข้างในที่ชัดเจน เช่น พัสดุข้างในคือเสื้อ เราไม่สามารถระบุเพียงแค่คำว่า Shirt ได้ แต่ต้องระบุด้วยว่าเป็นเสื้ออะไร ผลิตจากผ้าอะไร สีอะไร ขนาดเท่าไหร่ และผลิตที่ประเทศไหน เป็นต้น เพราะในบางประเทศปลายทาง มักมีข้อจำกัดเรื่องการเอาวัสดุต่างๆเข้าประเทศ เป็นต้น หากคุณไม่ระบุรายละเอียดของสิ่งของที่อยู่ข้างในให้ชัดเจน พัสดุของคุณอาจจะโดนตีกลับมาอีกครั้ง ทำให้เสียเวลาในการจัดส่ง เพราะฉะนั้น อย่าลืมกรอกข้อมูลให้ครบถ้วนก่อนทำการจัดส่ง
แพ็คพัสดุให้เรียบร้อย
การแพ็คพัสดุส่งต่างประเทศนั้น ผู้ส่งต้องคำนึงว่าระยะทางในการส่งนั้นไกลกว่ามาก กระบวนการที่เจ้าหน้าที่ต้องจับต้องสินค้าก็มีมากเช่นเดียวกัน เพราะฉะนั้นควรแพ็คสิ่งของข้างในให้แน่นหนาพอที่จะกันการกระทบกระแทกต่างๆระหว่างทางได้ รวมถึงปิดกล่องพัสดุให้มิดชิด เพื่อให้พัสดุถึงมือผู้รับปลายทางอย่างปลอดภัย
การเลือกขนส่ง
ปัจจุบันนอกจากไปรษณีย์ไทยแล้ว ก็มีบริษัทขนส่งเอกชนหลายบริษัทที่มีบริการส่งพัสดุไปต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็น DHL หรือ Aramex เป็นต้น โดยเงื่อนไข วิธีการขนส่งและราคาของแต่ละขนส่งก็จะแตกต่างกันไป ผู้ส่งสามารถเลือกได้ตามความเหมาะสมและความต้องการ
ทำให้การส่งพัสดุไปต่างประเทศ จะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป หากผู้ส่งทำการตรวจสอบก่อนการจัดส่งและทำตามขั้นตอนให้ถูกต้อง เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาตามมา และชิปจังหวังว่า 4 ทริคนี้จะช่วยให้ทุกคนส่งของไปงประเทศได้ง่ายกว่าที่เคย