การส่งเสริมพัฒนาการให้กับเด็กด้วยการเรียนทำอาหาร

การเข้าครัวทำอาหารสามารถเป็นเรื่องสนุกสำหรับเด็กๆได้ไม่น้อยไปกว่าการวิ่งเล่นหรือการทำกิจกรรมอื่นๆเลย อีกทั้งการทำอาหารยังช่วยส่งเสริมพัฒนาการให้กับเด็กๆได้หลายด้านไปพร้อมๆกัน คุณพ่อคุณแม่บางคนอาจจะกังวลว่าการปล่อยให้ลูกเข้าไปยุ่มย่ามให้ห้องครัวอาจจะเป็นอันตรายแก่ลูกน้อย ไม่ว่าจะเป็นของมีคม ของที่ตกแตกได้ง่าย อย่างมีด จานชาม หรือจะเป็นเตาแก๊ส แต่ปัญหาเหล่านี้นั้นไม่ใช่เรื่องใหญ่เลย เพียงแค่ให้ลูกๆ ได้เข้าเรียนทำอาหารสำหรับเด็กเท่านั้น นอกจากจะปลอดภัยไร้กังวลเนื่องจากมีคุณครูคอยดูแลแล้ว การเรียนทำอาหารสำหรับเด็กยังมีประโยชน์ในหลายๆด้านอีกด้วย

เมื่อได้เรียนทำอาหารสำหรับเด็ก ลูกของคุณจะได้ฝึกฝนทักษะการเคลื่อนไหว ยิ่งถ้าเป็นเด็กเล็กที่ยังเคลื่อนไหวไม่คล่องแคล่วเท่าไหร่นักก็จะได้มีพัฒนาด้านการประสานงานระหว่างตาและมือ และยังได้ฝึกประสาทสัมผัสทั้ง 5 อีกด้วย ในคลาสเรียนทำอาหารสำหรับเด็ก ลูกๆจะได้ฝึกการหยิบจับอุปกรณ์ครัวต่างๆ เรียนรู้การชั่งตวงน้ำหนักวัตถุดิบ ฝึกฝนการใช้แรงที่เหมาะสมในแต่ละขั้นตอนการทำอาหาร เช่น การตอกไข่  การหั่นผัก ดังนั้นการเข้าเรียนทำอาหารสำหรับเด็กจะช่วยส่งเสริมพัฒนาการด้านร่างกายให้เด็กๆได้เป็นอย่างดี

ไม่เพียงแต่จะได้ฝึกฝนการหยิบจับอุปกรณ์ครัวเท่านั้น ในการเรียนทำอาหารสำหรับเด็ก ลูกๆจะได้เรียนรู้เรื่องการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปในตัว เมื่อทำอาหาร เราจะต้องมีการแก้ปัญหา มีการจัดการกับเรื่องที่ไม่คาดคิดอยู่ตลอดเวลา เช่น ไข่ไม่สุก เนื้อหมูไหม้ รสชาติไม่กลมกล่อม เมื่อได้เรียนทำอาหารสำหรับเด็ก เด็กๆจึงต้องเตรียมพร้อมที่จะปรับเปลี่ยนเทคนิคหรือขั้นตอนเพื่อให้ได้อาหารที่รสชาติถูกปากตามต้องการ จึงเป็นการฝึกให้คิดหาเหตุและผล รวมถึงฝึกให้มีความยืดหยุ่น สามารถคิดหาวิธีใหม่ๆมาแก้ปัญหาได้อีกด้วย

แน่นอนว่าเมื่อได้ฝึกฝนการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าแล้ว ก็ได้เพิ่มพูนความคิดสร้างสรรค์ไปพร้อมๆกัน เมื่อทำอาหารแล้วประสบปัญหา เด็กๆต้องคิดหาวิธีมาแก้ไข ซึ่งการคิดหาวิธีของเด็กๆนั้นมักจะเป็นการคิดนอกกรอบ มีการประยุกต์ใช้สิ่งต่างๆที่ผู้ใหญ่อาจไม่คาดคิดมาใช้ ซึ่งทักษะนี้เป็นสิ่งสำคัญที่สามารถนำไปต่อยอดได้ไม่ว่าลูกๆของคุณจะไปทำกิจกรรมอะไรก็ตาม http://www.mlpuang.com/